-
- ทำภาพ
ผมทำภาพที่ https://designer.microsoft.com/image-creator
พร้อมต์คือ
สาวสวย น่ารักชาวไทยกำลังถือ smartphone รุ่น Vivo X200 Pro
แต่ภาพที่ได้ไม่ใช่รุ่น Vivo X200 Pro ครับ ผมก็เลยไปหาภาพ X200 Pro มาลบพื้นหลังแล้วก็เอาภาพมือถือเอามาวางที่มือนางแบบ - วิธีเอานิ้วมาทับสินค้า
เนื่องจากภาพที่ได้ไม่ตรงรุ่น เราก็เลยต้องเอาภาพสินค้ามาวางที่มือนางแบบเองครับ แต่ปัญหาคือ นิ้วมือก็จะอยู่หลังมือถือ ทำให้ภาพดูไม่เนียน เราก็เลยต้องเอานิ้วมาวางไว้หน้าสุดครับ
ไปกันเลย
- ทำภาพ
รีวิวหนังสือ “อิคิไก: The Little Book of Ikigai” โดย Ken Mogi
อิคิไก (Ikigai) เป็นแนวคิดญี่ปุ่นที่กล่าวถึง “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่” หรือ “เหตุผลของการตื่นขึ้นในแต่ละวัน” ซึ่งหนังสือ “The Little Book of Ikigai” เขียนโดย Ken Mogi เป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วยอธิบายแนวคิดนี้อย่างเข้าใจง่ายและเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของคนยุคปัจจุบัน
หนังสือเล่มนี้พูดถึง 5 เสาหลักของอิคิไก ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการค้นหาและใช้ชีวิตด้วยความหมายและความสุข:
- การเริ่มต้นเล็กๆ (Start small): สร้างนิสัยและพฤติกรรมใหม่ๆ ด้วยการเริ่มจากสิ่งเล็กๆ
- การปล่อยวางและมีอิสระ (Release yourself): ปลดปล่อยตัวเองจากความคาดหวังที่สูงเกินไปและปล่อยให้ตัวเองเป็นธรรมชาติ
- ความสามัคคีและความยั่งยืน (Harmony and sustainability): รู้จักทำงานร่วมกันกับคนอื่นอย่างสอดคล้อง และสร้างชีวิตที่ยั่งยืน
- ความสุขกับสิ่งเล็กๆ (The joy of little things): หาความสุขในสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการจิบชา หรือการเดินเล่น
- การอยู่ในที่ที่คุณควรอยู่ (Being in the here and now): อยู่กับปัจจุบันและรู้สึกเต็มที่กับช่วงเวลาที่กำลังมีอยู่
Ken Mogi อธิบายแต่ละหัวข้อผ่านมุมมองของวัฒนธรรมญี่ปุ่นและประสบการณ์ชีวิตจริง เช่น การเล่าเรื่องเกี่ยวกับพิธีชงชา (茶道, ซะโด) หรือความละเอียดอ่อนของงานฝีมือชาวญี่ปุ่น ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าการค้นหาอิคิไกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันในทุกกิจกรรม
จุดเด่นของหนังสือ
- กระชับและเข้าใจง่าย: หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาสั้นและตรงประเด็น ทำให้สามารถอ่านจบได้ในเวลาไม่นาน เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจแนวคิด “อิคิไก” แต่ไม่ต้องการเนื้อหาที่ซับซ้อน
- ตัวอย่างจากชีวิตจริง: มีการยกตัวอย่างทั้งชีวิตของบุคคลทั่วไปในญี่ปุ่น เช่น คนเฒ่าคนแก่ที่อายุยืนยาวในโอกินาว่า ซึ่งแสดงถึงการใช้ชีวิตด้วยความสุขแบบเรียบง่าย
- แนวคิดที่ประยุกต์ใช้ได้จริง: หนังสือเน้นให้ผู้อ่านมองหาความหมายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นงานที่ทำหรือการหาความสุขในสิ่งเล็กๆ
ข้อควรพิจารณา
- ความเรียบง่ายของเนื้อหา: บางคนอาจรู้สึกว่าเนื้อหาเรียบง่ายเกินไป หากคุณเป็นคนที่คุ้นเคยกับแนวคิดอิคิไกมาก่อน หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่เพิ่มข้อมูลใหม่มากนัก แต่สำหรับผู้เริ่มต้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
- เน้นวัฒนธรรมญี่ปุ่น: เนื้อหามีการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมและความเชื่อญี่ปุ่นอยู่มาก ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมนี้อาจจะรู้สึกเข้าใจยากในบางส่วน
สรุป
หนังสือ “The Little Book of Ikigai” เป็นหนังสือที่เหมาะกับผู้ที่สนใจแนวคิดการใช้ชีวิตด้วยความสุขในสิ่งเล็กๆ และการหาความหมายของชีวิตตามแนวคิดญี่ปุ่น ด้วยการเล่าเรื่องที่กระชับ เข้าใจง่าย และใช้ตัวอย่างจากชีวิตจริง หนังสือเล่มนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านสามารถนำหลักการของอิคิไกไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน
เทคนิคการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ
ในยุคสมัยที่ความเร่งรีบและความกดดันในการทำงานมีมากขึ้น หลายคนพบว่าการทำงานวันละ 8 ชั่วโมงไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเลย แต่กลับทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและไม่มีเวลาสำหรับตัวเอง วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณสามารถเพิ่มผลผลิตและลดเวลาทำงานลง โดยไม่ต้องเสียประสิทธิภาพการทำงาน
1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน และสามารถติดตามความคืบหน้าได้ง่ายขึ้น ลองแบ่งเป้าหมายออกเป็นเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้คุณสามารถติดตามและปรับเปลี่ยนแผนการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
2. จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง คุณต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งเวลาให้เหมาะสม โดยอาจใช้เทคนิคการจัดการเวลาแบบ Pomodoro หรือการใช้ปฏิทินและตัวจับเวลาเพื่อติดตามความคืบหน้า นอกจากนี้ยังควรเรียนรู้ที่จะกำจัดสิ่งรบกวนความสนใจและการเลื่อนงานออกไป เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมุ่งมั่นและมีประสิทธิภาพ
3. ลดการรบกวนความสนใจ
การรบกวนความสนใจเป็นศัตรูตัวฉกาจของการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับสิ่งรบกวนต่างๆ เช่น การใช้โทรศัพท์ การตรวจสอบอีเมล หรือการเปิดโซเชียลมีเดีย ลองใช้เทคนิคการทำงานแบบ “Deep Work” โดยการปิดโทรศัพท์และใช้เวลาอย่างมุ่งมั่นกับงานที่สำคัญ
4. พักผ่อนและทำกิจกรรมอื่นๆ
แม้ว่าการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ แต่คุณก็ยังต้องดูแลตัวเองด้วย ลองแบ่งเวลาในการพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่คุณชอบ เพื่อให้คุณมีความสดชื่นและพร้อมที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในวันต่อไป
สรุป:
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการรบกวนความสนใจ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อคุณสามารถปรับใช้เทคนิคเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะพบว่าคุณสามารถทำงานได้อย่างมีเป้าหมายและมีความสุขมากขึ้น
ถาม-ตอบ:
1. ทำไมต้องทำงานวันละ 4 ชั่วโมง?
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เนื่องจากช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้า ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมุ่งมั่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. มีเทคนิคอะไรบ้างในการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง?
เทคนิคที่สำคัญ ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการรบกวนความสนใจ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
3. ข้อดีของการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงคืออะไร?
ข้อดีของการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง ได้แก่ การเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน การลดความเครียดและความเหนื่อยล้า และการมีเวลาสำหรับตัวเองและกิจกรรมอื่นๆ มากขึ้น
สรุป:
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายแต่สามารถทำได้ หากคุณสามารถปรับใช้เทคนิคต่างๆ อย่างถูกต้อง เช่น การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการรบกวนความสนใจ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อคุณสามารถทำได้ คุณจะพบว่าคุณสามารถเพิ่มผลผลิตและลดเวลาทำงานลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำหลักที่เกี่ยวข้อง:
- วิธีการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ
- เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในการทำงาน
- เคล็ดลับการจัดการเวลาในการทำงาน
- วิธีลดเวลาทำงานลงให้เหลือเพียง 4 ชั่วโมงต่อวัน
- กลยุทธ์การทำงานอย่างมีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
ทำงานวันละ 4 ชั่วโมงก็พอ ดีกว่านั่งแช่หน้าจอ แต่งานไม่เดิน
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การทำงานแบบนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนตลอดทั้งวันกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำงานแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ดังนั้น แนวคิดเรื่องการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีข้อดีมากมาย ทั้งในเรื่องของการมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น การมีสุขภาพที่ดีขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
ข้อดีของการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง
1. มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น – เมื่อทำงานเพียงวันละ 4 ชั่วโมง ก็จะมีเวลาส่วนตัวเหลือมากขึ้น สามารถใช้เวลากับครอบครัว ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
2. สุขภาพดีขึ้น – การทำงานเพียงวันละ 4 ชั่วโมงจะช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้า ทำให้มีเวลาในการออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน – เมื่อมีเวลาทำงานน้อยลง จะทำให้เรามุ่งเน้นและรีบทำงานให้เสร็จในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น
ข้อเสียของการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง
1. รายได้อาจลดลง – เนื่องจากทำงานน้อยลง รายได้ก็อาจจะลดลงตามไปด้วย ดังนั้น จึงต้องมีการวางแผนการเงินที่ดีเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม
2. อาจไม่เหมาะกับทุกอาชีพ – การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงอาจไม่เหมาะกับบางอาชีพที่ต้องทำงานต่อเนื่องหรือมีข้อจำกัดด้านเวลา เช่น งานบริการ งานขาย เป็นต้น
3. ต้องมีวินัยในการบริหารเวลา – การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงจำเป็นต้องมีวินัยในการบริหารเวลาสูง เพื่อให้สามารถทำงานให้เสร็จได้ทันเวลา และมีเวลาส่วนตัวเหลือใช้อย่างเต็มที่
เทคนิคการบริหารจัดการเวลาในการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง
1. กำหนดเป้าหมายและแผนงานที่ชัดเจน – ต้องรู้ว่าจะทำอะไร ต้องทำอะไร และจะทำเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ลดการรับสิ่งรบกวนความสนใจ – ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ บนอุปกรณ์ เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
3. พักผ่อนและฟื้นฟูสมรรถภาพ – ใช้เวลาที่เหลือจากการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อน หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ
สรุป
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่หากสามารถบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น และยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาทางเลือกใหม่ในการทำงาน การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ทำงานวันละ 4 ชั่วโมงจะส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างไร?
– การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงอาจทำให้รายได้ลดลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและความสามารถในการบริหารจัดการเวลา หากสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รายได้ก็อาจไม่ลดลงมากนัก
2. การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงเหมาะกับอาชีพใดบ้าง?
– การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงเหมาะกับอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เช่น งานด้านการออกแบบ งานด้านการเขียนโปรแกรม งานด้านการบริหารจัดการ เป็นต้น
3. มีเทคนิคอะไรบ้างในการบริหารจัดการเวลาในการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง?
– เทคนิคที่สำคัญ ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายและแผนงานที่ชัดเจน การลดการรับสิ่งรบกวนความสนใจ และการพักผ่อนและฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างเหมาะสม
สรุป
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว เพราะมีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น การมีสุขภาพที่ดีขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย แม้ว่าจะมีข้อเสียบางประการ แต่หากสามารถบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีความสมดุลมากขึ้น
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมง ดียังไง
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงเป็นแนวคิดที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ
ข้อดีของการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การมีเวลาจำกัดอาจกระตุ้นให้เราทำงานได้อย่างมีสมาธิและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเราต้องจัดลำดับความสำคัญของงานและทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด
- ลดความเครียด: การทำงานน้อยลง ทำให้เรามีเวลาพักผ่อนและทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เราชอบมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้
- สุขภาพกายและใจดีขึ้น: การมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ทำให้เรามีเวลาออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว
- สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว: การทำงานน้อยลง ทำให้เรามีเวลาให้กับครอบครัว เพื่อนฝูง และกิจกรรมที่เราสนใจมากขึ้น ช่วยให้เรามีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- ลดต้นทุนให้องค์กร: บริษัทหลายแห่งพบว่า การลดชั่วโมงการทำงานของพนักงาน ทำให้ลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าเครื่องใช้สำนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
อย่างไรก็ตาม การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงก็มีข้อควรพิจารณาบางประการ ดังนี้
- ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน: ไม่ใช่งานทุกประเภทจะสามารถทำงานให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 4 ชั่วโมง อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานหรือกระบวนการทำงานให้เหมาะสม
- ต้องมีการวางแผนและจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ: การทำงานให้เสร็จภายในเวลาอันจำกัด ต้องอาศัยการวางแผนและจัดการเวลาที่ดี
- อาจต้องมีการปรับตัว: ทั้งพนักงานและองค์กรต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับรูปแบบการทำงานแบบใหม่
สรุป
การทำงานวันละ 4 ชั่วโมงเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลและองค์กร การจะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้จริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ลักษณะของงาน วัฒนธรรมองค์กร และความพร้อมของบุคลากร
หากคุณสนใจเรื่องนี้เพิ่มเติม ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:
- การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์: เป็นแนวคิดที่คล้ายกันกับการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง โดยมีการลดวันทำงานลงเหลือ 4 วันต่อสัปดาห์
- ผลการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง: มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาผลกระทบของการทำงานวันละ 4 ชั่วโมงต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความสุขของพนักงาน และผลประกอบการขององค์กร
คำถามเพิ่มเติม:
- คุณสนใจที่จะลองทำงานวันละ 4 ชั่วโมงหรือไม่ครับ
- คุณคิดว่าอะไรคืออุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการนำแนวคิดนี้ไปใช้
- คุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องใดเป็นพิเศษ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ
Hello world!
Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start writing!
เปลี่ยนชื่ออีกแล้วครับ
12 มิถุนายน 2553
เชิญทุกท่านที่ NavanBlog.comนะครับ ขอบคุณมากครับ
NavanBlog เปลี่ยนชื่ออีกแล้วนะครับ เปลี่ยนเป็น NavanBlog.Co.cC เปลี่ยนเพื่อให้จำง่ายขึ้นครับ
และอย่าลืมไปเยี่ยมชมเว็บไดเร็กทอรีใหม่ของนาวรรณที่ ThaiTourTag.com ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ย้ายบ้านแล้วครับ
สวัสดีครับ ทุกคน NavanBlog ย้ายบ้านแล้วนะครับ ย้ายจาก NavanBlog.WordPress.com ที่นี่ ไปที่NavanBlog.thport.com ครับ ต้องขอบคุณพี่ HS8HXQ แห่ง สถานีตำรวจภูธรอำเภอจัตุรัส มากครับที่ช่วยแนะนำพื้นที่ฟรีดีดี ที่นี่ ขอบคุณมากครับ
เล่นเกมส์ Pinball ในเวิร์ด 97
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเพิ่มหใวดหมู่อีก1หมวดคือ หมวดไข่อีสเตอร์ ไข่อีสเตอร์หรือ Easter Eggs นั้นก็คือสิ่งต่างๆ หรือ สิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ผู้เขียนโปรแกรม(รวมทั้งเว็บไซต์และบล็อก)ต่างๆสร้างขึ้นและแอบเอาไว้ เพื่อให้เราค้นหา
และไข่ใบแรกที่ผมอยากแนะนำก็คือ การเล่นเกมส์พินบอลในเวิร์ด 97 ครับซึ่งเป็นไข่ใบที่ผมชอบเล่นเวลาว่างๆ
วิธีเล่นก็ง่ายๆครับ
- เปิดโปรแกรม Microsoft Word 97
- พิมพ์ Blue โดยที่ตัว B ต้องเป็น B ตัวใหญ่ครับ
- เลือกคำในข้อ 2
- กำหนดเป็นตัวหนา , สีน้ำเงิน Blue
- เคาะว่าง(Space) หลังคำว่า Blueหนึ่งครั้ง
- ไปที่ Help → About Microsoft Word (หรือ วิธีใช้ → เกี่ยวกับ)
- ดับเบิลคลิกที่ไอคอนเวิร์ด
- จะเห็นหน้าตาโปรแกรมดังภาพ กด Z และ M เพื่อควบคุมแขนซ้ายขวา
- กด Esc เพื่อออกจากโปรแกรม
ทิปเพิ่มเติม : เราสามารถเปิดโปรแกรม Word ได้อย่างรวดเร็วโดย กดปุ่ม WinDows+R พิมพ์ Winword กด Enter
ช่วยด้วยครับ! อยากได้บล็อกใหม่
สวัสดีครับ หากคุณเห็นข้อความนี้แสดงว่าคุณเป็นคนพิเศษ เพราะว่าคนปรกติหรือคนทั่วไปเขาไม่ค่อยเข้าบล็อกนี้กัน(ประชดครับ เขียนมาตั้งนานไม่มีใครมาเยี่ยมบล็อกเลย)
ที่ขึ้นหัวข้อว่า อยากได้บล็อกใหม่ ก็คือ
- สวย
- ในส่วนแสดง Page จะคล้ายกับเมนูโปรแกรม และหน้าตาบล็อกคล้ายระบบปฏิบัติการ(Mac)
- มีรูปแบบ เมนูย่อย หรือ pageย่อย สังเกตที่คำว่าหมูอ้วนกับhs8hxqเป็น หน้าย่อยของหน้าสมาชิกซึ่งธีมอื่นๆไม่ค่อยมี(ถ้าใครรู้ว่าธีมไหนทำได้ช่วยบอกด้วยนะครับ)
และอื่นๆ เช่น เมนูที่ด้านขวาสามารถย้ายได้
- ไม่สามารถเขียนคอมเมนต์ในหน้า(page)ได้ ซึ่งไม่เป็นปัญหาแก้ไขได้โดยการโกงให้ลิงค์ไปที่หน้าธรรมดาได้ (ใครรู้วิธีแก้ไขให้สามารถเขียนคอมเมนต์ในpageใน Theme ที่ปรกติเขียนไม่ได้ให้เขียนได้ ช่วยบอกด้วยนะครับ)
และอีกเหตุผลที่อยากอยากได้บล็อกใหม่ก็คือ
- สามารถอัพโหลดไฟล์โดยใช้ FTP ได้ เอาไว้อัพโหลด Theme กับปลั๊กอินครับ
- ไม่จำเป็นต้องเป็น NavanBlog.Com ก็ได้ จะเป็น NavanBlog.โดเมนอะไรก็ได้.คอม ก็ไม่เกี่ยง จริงๆแล้วผมก็ชอบชื่อ NavanBlog.Wordpress.com เพียงแต่ว่าสองสามวันมานี้ wordpress มีอะไรแปลกๆ
ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับว่า จะหาพื้นที่เขียนบล็อกที่สามารถอัพโหลดไฟล์(ด้วยFTP)ได้เองได้ที่ไหนบ้าง หรือท่านใดมีพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ว่างๆ จะให้ผมเขียนบล็อกบ้างก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ